มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยคณะพยาบาลศาสตร์ได้ดำเนินโครงการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้สูงอายุในตำบลดังรายละเอียดของโครงการวิจัย การพัฒนาชุดความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพ สำหรับผู้สูงอายุ ตำบลจอมทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีหลักการและเหตุผล และที่มาของโครงการวิจัยดังนี้ ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเนื่องจากสังคมปัจจุบันมีวิวัฒนาการในด้านการแพทย์ และสาธารณสุขทำให้ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกาย การทำหน้าที่ของร่างกายลดลงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค โดยเฉพาะโรคเรื้อรังซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ จากสถานการณ์ด้านโครงสร้างประชากรในปัจจุบันซึ่งมีประชากรรวม 64.5 ล้านคน พบว่า มีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 9.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 14.57% ของประชากรรวม มีจำนวนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 9.77% ของประชากรรวม และพบว่า อัตราการพึ่งพิงของประชากรสูงอายุต่อคนวัยทำงานของประเทศไทย ซึ่งในปีพ.ศ. 2563 วัยทำงาน 100 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 30.3 ผลจากการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย จิตใจและสังคมดังกล่าวทำให้ผู้สูงอายุขาดโอกาสในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนหรือรับข้อมูลข่าวสาร จึงทำให้แนวคิดเกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุอยู่ในความสนใจเพิ่มขึ้น แต่จากการสำรวจของศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ในปี2558 พบว่า ผู้สูงอายุจำนวนประมาณ50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทย เท่านั้นที่มีการอ่านหนังสือ ซึ่งจะส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารด้านสุขภาพ ลดลง ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีทักษะใน การฟังการอ่าน และการเขียนลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจข้อมูลสุขภาพคลาดเคลื่อน เกิด ข้อจำกัดในการสื่อสารสุขภาพโดยเฉพาะการสื่อสารสองทางกับบุคลากรทางสุขภาพ ซึ่งข้อจำกัดในการสื่อสาร สุขภาพดังกล่าวนอกจากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัยแล้ว ยังเป็นผลจากอิทธิพลของวัฒนธรรมและ สิ่งแวดล้อม แม้ผู้สูงอายุจะมีทักษะด้านการตัดสินใจและเลือกปฏิบัติดีเนื่องจากเรียนรู้ จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาแต่การขาดข้อมูลสุขภาพที่เพียงพอในการคิดและตัดสินใจและการขาดทักษะใน การสื่อสารสภาวะทางสุขภาพของตนให้ผู้อื่นเข้าใจ จึงทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับคำ แนะนำ ที่ไม่ตรง กับความต้องการ ส่งผลต่อการตัดสินใจในการดูแลสุขภาพตนเองผิดพลาด ผลที่ตามมาคือการเพิ่มขึ้นของความ เจ็บป่วยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการพึ่งพาบริการทางการแพทย์อีก และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต (วิมลรัตน์ บุญเสถีตร , 2563) พิจารณาถึงสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพของภาครัฐ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ในปี 2553 รวมเท่ากับ 2.2%เป็นภาระค่าใช้จ่ายบริการสุขภาพของผู้สูงอายุ เท่ากับ 0.6%คิดเป็น 27% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพทั้งหมดซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2565 รวมเท่ากับ2.8% เป็นภาระค่าใช้จ่ายบริการสุขภาพของผู้สูงอายุเท่ากับ 1.1%คิดเป็น 39% ของค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพทั้งหมดนโยบายหลักในการบริหารประเทศภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ คือ นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ วัยเด็ก วัยเจริญพันธุ์ วัยบรรลุนิติภาวะ วัยชรา ดังนั้นการช่วยให้ผู้สูงอายุมีความรอบรู้ด้านสุขภาพในระดับที่สูงขึ้น อาจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาความเจ็บป่วยลดลง มีการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ช่วย ลดค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการดูแลรักษาและยังส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งตนเองและสามารถดำเนินชีวิตได้ ปกติสุขตามศักยภาพ การพัฒนาชุดความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ จึงมีความสำคัญเพราะจะสามารถทำให้ผู้สูงอายุได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำและร่วมกันสร้างชุดการเรียนรู้ดังกล่าวพร้อมทั้งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ต่อไป
ในตำบลจอมทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีจำนวนประชากรทั้งหมด 2,525 คน เป็นผู้สูงอายุจำนวน 360 คน คิดเป็นร้อยละ14.26 และเป็นผู้ป่วยเรื้อรังจำนวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 14.45 และติดเตียงจำนวน 9 คน (ศูนย์ข้อมูลประเทศไทย,2563) ซึ่งสาเหตุเกิดจากการปฏิบัติตัวและจากสถิติของผู้สูงอายุ มีจำนวนมากและก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มตัว จึงมีความจำเป็นที่ผู้สูงอายุต้องมีองค์ความรู้ในการดูแลตนเองและสามารถสร้างเสริมสุขภาพเพื่อที่จะทำให้ผู้สูงอายุไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือพิการต่อไป
การเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความพร้อมในการเป็นสังคมผู้สูงอายุ พัฒนาบริการสุขภาพอนามัย จัดการศึกษา จัดสวัสดิการ รวมถึงสนับสนุนให้ผู้สูงอายุร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม จะทำให้ผู้สูงอายุอยู่กับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข
ดังนั้นวิทยาลัยการพยาบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจอมทองมีวิสัยทัศน์และพันธกิจที่จะสร้างเสริมสุขภาพและฟื้นฟูสภาพให้กับผู้สูงอายุโดยเน้นและต้องการให้ผู้สูงอายุ มีความรู้ มีความเข้าใจในการดูแลและสร้างเสริมสุขภาพ ได้ด้วยตนเอง โดยผ่านชุดความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ที่ได้จัดทำขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นและคาดหวังในผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองต่อครอบครัวต่อชุมชนอีกทั้ง เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของชุมชนนำไปสู่ความยั่งยืนของกิจกรรม ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานการสงเคราะห์ผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมและทั่วถึงรวมทั้งเป็นแนวทางให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องนำไปให้การดูแลช่วยเหลือและจัดสวัสดิการผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำรงชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างสันติสุข และยั่งยืนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามอัตภาพไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุต่อไป
++++ซึ่งผลการวิจัยนี้ได้สร้างความสุขทางด้านสุขภาพให้กับประชาชน และผุ้สูงอายุได้ชุดการเรียนรู้ที่ผู้สูงอายุสามารถนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเองได้+++

